วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2552

ไมเคิล แองเจโล







เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่ง ไมเคิง แองเจโล่ กำลังง่วนกับหินก้อนหนึ่ง ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นเดวิด ก็มีเด็กน้อยคนหนึ่งเดินผ่านมาเจอเค้ากำลังทำงานอยู่ เด็กน้อยก็ถาม ไมเคิล แองเจโล่ ว่า ทำไมเขาจึงทำงานหาม รุ่งหามคำ เพื่อแกะสลักหินก้อนนั้น ไมเคิล ตอบเด็กน้อยคนนั้นว่า "นี่พ่อหนุ่มน้อย มีเทวดาองค์หนึ่งอยู่ภายในหินก้อนนี้ และฉันกำลังปลดปล่อยให้เค้าเป็นอิสระ"
เดิมทีหินก้อนนี้ถูกตัดมาเพื่อสร้างผลงานตั้งแต่ก่อนที่ไมเคิล แองเจโล่ จะเกิดเสียอีก ความจริงแล้วหินก้อนนี้ได้ถูกมอบหมายให้ อากอสติโน ดีคุซซิโอ เป็นคนจัดการในปี 1464 หรือประมาณ 11 ปี ก่อนที่ ไมเคิล แองเจโล่ จะเกิดบนโลกนี้ แต่ อากอสติโน ไม่สามารถตัดสินใจจะทำอะไรกับหินก้อนนี้ เขาจึงเลิกล้มงานไม่ทำต่อไป จนเข้าสู่ปี 1476 เมื่อไมเคิล แองเจโล่ อายุได้แค่ 1 ขวบปี เท่านั้น ศิลปินอีกท่านหนึ่ง นามว่า แอนโตนิโอ รอสเซลลิโน ก็ได้รับมอบหมายให้หาทางจัดการหินอ่อนดังกล่าว แต่ก้จบลงอีหรอบเดียวกัน อากอสติโน เขามองไม่ออกว่าจะจัดการอย่างไร แม้แต่ ลีโอนาโด ดาวินชี ! ก็ได้ถูกร้องขอให้มาลองทำอะไรสักอย่างกับหินก้อนนี้ เขาปฎิเสธด้วยเหตุผล 2 ประการ ประการแรก เขาคิดว่าการแกะสลักเป็นรูปแบบของศิลปะชั้นตำ ประการที่สอง เขามองไม่ออกว่าหินก้อนนี้ควรจะมีหน้าตาออกมาเป็นอย่างไร
ศิลปินทั้งสามล้วนแต่ดำเนินการกับหินของไมเคิล แองเจโล่ ทั้งนั้น แต่กลับมองไม่เห็นว่ามีอะไรอยุ่ในหินก้อนนี้ แต่ ไมเคิล แองเจโล่ กลับมองเห็นเทพสถิตอยู่ในหินก้อนนั้น รอคอยผู้ที่มีบุญที่จะมาทำหน่าที่ปลดปล่อยให้เป็นอิสระ เพื่อออกมาสร้างสิ่งจรรโลงใจ ให้ฟลอเรนซ์และชาวโลก ต่อไป

ราฟาเอล ซานซิโอ




ราฟาเอล (ภาษาอิตาลี: Raffaello Sanzio, ภาษาอังกฤษ: Raphael, พ.ศ. 2026-2063) มีชื่อเต็มว่า “ราฟาเอลโล ซันซิโอ” เป็นจิตรกรชาวอิตาลีที่มีอาวุโสน้อยที่สุดในบรรดาจิตรกรผู้ยิ่งใหญ่ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา โดยมีอายุน้อยกว่าเลโอนาร์โด ดา วินชี 31 ปีและอ่อนกว่ามีเกลันเจโล บัวนาร์โรตี 8 ปี เมื่อ พ.ศ. 2051 ราฟาเอลได้เดินทางไปยังเมืองฟลอเรนซ์เพื่อศึกษางานของเลโอนาร์โด ดา วินชีและของ มีเกลันเจโล ต่อมาในปี พ.ศ. 2055 ได้ไปอยู่ที่กรุงโรมและพากเพียรเขียนภาพเพื่อให้ทัดเทียมกับศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองท่านที่เขายกย่อง ราฟาเอลได้เขียนจิตรกรรมฝาผนังหลายชิ้นในนครวาติกัน ซึ่งถือกันว่าเป็นผลงานขั้นสูงสุดในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่สามารถรวมเอาความสงบนิ่งไว้กับความสมดุลได้อย่างกลมกลืน ราฟาเอลได้รับการแต่งตั้งเป็นสถาปนิกผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในปี พ.ศ. 2057 และมีส่วนในการวางผังเมืองกรุงโรมงานจิตรกรรมของราฟาเอลในระยะหลังมีความเรียบง่ายและมีความใหญ่โตมากขึ้น แต่ยังคงรักษาความมีชีวิตชีวาของงานยุคต้นของตนเองไว้ได้ งานของราฟาเอลที่แสดงถึงความงามของผู้หญิงนับได้ว่าเป็นผลงานที่มีอิทธิพลต่อศิลปินกลุ่ม สถาปัตยกรรมฟื้นฟูกรีกโรมัน (Neo-Classical architecture) เป็นอย่างมาก
ราฟาเอลมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับเจ้าผู้ครองนครและพระสันตปาปามากในช่วงปลายของชีวิต น่าเสียดายที่ราฟาเอลเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 37 ปี ศพของราฟาเอลได้รับการฝังไว้ที่มหาวิหารแพนเธอนอนในกรุงโรมโดยพระบัญชาของพระสันตะปาปาปาลีโอที่ 10
ราฟาเอลมีชีวิตอยู่ตรงกับรัชสมัยระหว่างสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถและสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2แห่งสมัยกรุงศรีอยุธยา

[แก้] ดูเพิ่ม

วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2552

ลิโอนาโด ดาวินชี
















ชีวิตและ ผลงานของลีโอนาโด ดาวินซี ผู้เป็นทั้งจิตรกรและนักวิทยาศาสตร์ ชาวอิตาเลียนที่ยิ่งใหญ่ ในยุคเรเนซองส์นั้นได้สร้างสรรค์ผลงานที่ยังคง ความตราตรึงใจไว้ให้กับชนรุ่นหลัง อย่างไม่รู้จักจบสิ้น สิ่งที่ก่อให้เกิดความประทับใจแก่คนในยุคปัจจุบันนั้น อาจเป็นเพราะการคิดค้น ที่สร้างสรรค์ ของศิลปินผู้นี้ก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับคนในยุคที่แล้วนั้น ต่างพากันยกย่องในผลงาน ทั้งทางด้านงานศิลปะ และการค้นคว้าทางทฤษฎีทั้งหมด ลีโอนาโด ได้ให้ความสำคัญของงานศิลปะเท่าๆ กับ การค้นคว้าทางด้านวิทยาศาสตร์ สำหรับงานทางด้านวิทยาศาสตร์นั้นได้ถูกเก็บรักษา ไว้เป็นบันทึกจำนวนมหาศาล และได้กลายมาเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในสมัยศตวรรษที่ 20
ประวัติ [ TOP ]ลีโอนาโด ถือกำเนิดขึ้น ในวันที่ 15 เมษายน ปีคริสตศักราชที่ 1452 ในวินซี ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองฟลอเรนสซ์ ประเทศอิตาลี เขาเป็นบุตรนอกกฎหมายของ ปิเอโร ดาวินซี เจ้าพนักงานพิสูจน์ และรับรองเอกสาร แห่งเมืองฟลอเรนสซ์ กับหญิงสาวที่ชื่อ แคทเธอรีน พรสวรรค์ในทางศิลปะของลีโอนาโดนั้น ได้แสดงออก ตั้งแต่เขายังอยู่ในวัยเด็ก ในปี ค.ศ.1469 นั้น เขาได้ไปฝึกงานกับ อังเดรย์ เวอรอคชิโอ ซึ่งเป็นศิลปินเอกในสมัยนั้น ณ ที่นั้นเอง ลีโอนาโด ได้ฝึกฝนและเพิ่มความเก่งกาจ เชี่ยวชาญในงานต่างๆ เขาฝึกงานที่นั้นไปจนถึงปีค.ศ. 1476 และได้เข้าร่วมเป็น สมาชิกของสมาคมจิตรกรในปี ค.ศ.1472 ผลงานต่างๆ ที่ตกทอดมาสู่สายตา ของคนรุ่นหลังก็ได้เริ่มมาจากจุดนี้นี่เอง
ในปี ค.ศ.1478 เขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้วาดภาพให้กับ พาลาสโซ เวคชีโอ ในเมืองฟลอเรนสซ์ เป็นภาพการนำของมาถวายแด่พระกุมาร โดยนักปราชย์ทั้งสาม จากทิศบูรพา แต่งานนี้ก็ต้องหยุดชะงักไป เพราะลีโอนาโดได้ตัดสินใจออกจากฟลอเลนซ์ เพื่อไปยังมิลาน เมื่อปี ค.ศ.1482 และได้ไปทำงาน ให้กับท่านดยุ๊ค โลโดวิโก สฟอร์ซา ซึ่งในตอนนี้ลีโอนาโดก็มีอายุได้ 18 ปีพอดี ถึงแม้ว่าจะต้องทำงานให้กับราชสำนัก ด้วยการ เขียนภาพเหมือน การจัดงานแสดง รวมทั้งสร้างรูปจำลองของบิดาของท่านดยุ๊ค ในท่าทรงม้าด้วยก็ตาม แต่ลีโอนาโด ก็ยังทุ่มเทความสนใจให้กับเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับงานศิลปะด้วย เขาได้เพิ่มพูนความรู้ทางด้านกลศาสตร์ให้กับตนเอง โดยการทำงานเป็นวิศวกรให้กับฝ่านพลเรือน และฝ่ายทหาร จากนั้นเริ่มศึกษาค้นคว้าทางด้านวิทยาศาสตร์ โดยเน้นทางด้าน กายวิภาค ชีววิทยา คณิตศาสตร์ และฟิสิกข์ และแม้ว่าลีโอนาโดจะให้ความสนใจ ในหลายสิ่งหลายอย่างก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดงานเขียนชิ้นที่สำคัญที่สุดไปได้ นั่นก็คือ การเขียนภาพ "อาหารค่ำมื้อสุดท้าย" ( The Last Supper ) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
เมื่อมิลานตกเป็นของฝรั่งเศษ ในปี ค.ศ.1499 ลีโอนาโดได้ออกจากมิลานเพื่อไปหา งานทำที่อื่น โดยเริ่มไปที่เมืองมองทัวส์ และเมืองเวนิส แต่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้ไม่นาน ก็กลับมาที่ฟลอเรนสซ์อีก โดยทำงานเป็นคนเขียนแผนที่ และเป็นวิศวกรทหาร ให้กับ ซีสาร์ บอร์จีอา และในปีค.ศ.1503 ลีโอนาโดได้สร้างงานศิลปะที่สำคัญๆเอาไว้มากมาย ตัวอย่างเข่น ภาพเขียนบนฝาผนังในเรื่องของ สงคราม ( Battle of Anghiari ) ซึ่งเขียนติดไว้ที่ห้องโถงของสภาในตัวเมือง รูปโมนาลิซ่า (Portrait of Mona Lisa) อันเลื่องชื่อ และภาพของการหายไปของเลด้า และหงส์ ( Lost Leda and The Swan ) ในช่างนี้เขาได้ให้ความสนใจกับการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์มากขึ้น โดยทุ่มเท การค้นคว้าในเรื่องของกายวิภาคอย่างหนัก จนถึงขนาดผ่าตัดเอาอวัยวะจริงมาศึกษา เขาศึกษาการบินของนกอย่างละเอียด
ลีโอนาโดถูกเรียกตัวกลับมาที่มิลานอีกครั้ง ในเดือนมิถุนายนของปี ค.ศ.1506 เพื่อมาทำงานให้กับรัฐบาลใหม่ของฝรั่งเศษ เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ที่มิลานเป็นเวลาถึง 7 ปี ผลงานศิลปะในช่วงนี้ ก็เป็นการสร้างรูปจำลองให้กับ จีอัน จีอาโดโม ตรีวูชีโอ และก็เช่นเดียวกับการสร้างให้ท่านดยุ๊คสฟอร์ซา คือ ลีโอนาโดก็ไม่สร้างให้เสร็จ ในตอนนี้นั้นการค้นคว้าทางด้านวิทยาศาสตร์ของลีโอนาโด เริ่มมีอิทธิพลเหนือด้านอื่นๆ พรสวรรค์ทางด้านศิลปะของเขานั้นถูกใช้ไปกับการวาดภาพ ประกอบการค้นคว้า ทางวิทยาศาสตร์ของเขา โดยถ่ายทอดเอารายละเอียดความเข้าใจในส่วนต่างๆ ของโครงสร้างลงในภาพ ในปี ค.ศ. 1513 เขาได้ติดตามพี่ชายของพระสันตปาปาลีโอที่ 10 ที่ชื่อว่า จียูลิอาโน เดอะเมดีซี เพื่อไปยังกรุงโรม และใช้เวลาอยู่ที่นั่น 3 ปี โดยหมกหมุ่นอยู่กับการค้นคว้าทางทฤษฎีมากขึ้นเรื่อยๆ และในปี 1516-1517 นั้น ลีโอนาโดได้ออกจากอิตาลีไปโดยไม่ได้กลับมาอีก เขาไปทำงานเป็นที่ปรึกษาทาง สถาปัตยกรรมให้กับกษัตริย์ ฟรังซิสที่ 1 แห่งฝรั่งเศษผู้ซึ่งยกย่องในตัว ลีโอนาโดมาโดยตลอด ลีโอนาโดเสียชีวิตที่ประเทศฝรั่งเศษ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ปี ค.ศ.1519 รวมอายุได้ 67 ปี